ภาวะเสพติดทางเพศในผู้หญิง (Sexual Addiction in Women) | BSHC
ภาวะเสพติดทางเพศเป็นภาวะที่ผู้หญิงพบความยากลำบากในการควบคุมหรือจัดการพฤติกรรมทางเพศของตนเอง คล้ายกับผู้ที่มีปัญหาการติดสุรา ยาเสพติด หรือสารเสพติดอื่น ๆ สาเหตุของภาวะดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการเติบโตในครอบครัวที่ขาดการเอาใจใส่ดูแล ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาความเชื่อด้านลบว่าคนรอบข้างไม่ใส่ใจตน ความรู้สึกไร้คุณค่าในตนเอง และความยากลำบากในการรักษาความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับผู้อื่น ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้มีพฤติกรรมทางเพศที่มากเกินปกติเพื่อจัดการกับความรู้สึกโดดเดี่ยวและอ่อนแอ
อาการของภาวะเสพติดทางเพศในผู้หญิงที่อาจพบได้ เช่น ความทุกข์ใจเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ทางเพศซ้ำๆ โดยที่อีกฝ่ายเปรียบเสมือนวัตถุสำหรับตอบสนองความต้องการของตน ความหมกมุ่นอย่างบังคับกับคนที่เอื้อมไม่ถึง หรือการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอย่างหมกมุ่น ลักษณะสำคัญของโรคนี้มี 2 ประการ คือ 1) ความล้มเหลวซ้ำๆ ในการควบคุมพฤติกรรมทางเพศ และ 2) การดำเนินพฤติกรรมทางเพศต่อไปแม้จะทราบถึงผลเสียที่ตามมา นอกจากนี้ โรคเสพติดทางเพศยังอาจมีความเชื่อมโยงกับโรคทางจิตเวชอื่น ๆ เช่น โรคย้ำคิดย้ำทำ และโรคอารมณ์สองขั้ว
หากท่านหรือคนใกล้ชิดสงสัยว่ากำลังเผชิญกับภาวะเสพติดทางเพศ สิ่งสำคัญคือการขอความช่วยเหลือจากนักบำบัดและที่ปรึกษามืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งจะช่วยในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม นอกจากนี้ กลุ่มช่วยเหลือตนเองตามแนวทางของกลุ่มผู้ติดสุราแบบนิรนาม (Alcoholics Anonymous) ยังสามารถเป็นแหล่งสนับสนุนที่มีคุณค่า การได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่เคยมีปัญหาในลักษณะใกล้เคียงกัน จะช่วยให้ผู้หญิงที่มีภาวะเสพติดทางเพศเกิดความเข้าใจในตนเองมากขึ้น และมีกำลังใจในการก้าวข้ามช่วงเวลาอันท้าทายนี้ไปได้ในที่สุด
10. ความผิดปกติของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic floor muscle dysfunction)
กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานมีบทบาทสำคัญในการพยุงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานและกระดูกเชิงกราน ควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ อุจจาระ และมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ทางเพศ บางครั้งกล้ามเนื้อกลุ่มนี้อาจทำงานผิดปกติไป เช่น มีความตึงมากหรือน้อยเกินไป เจ็บ สั้น เกร็ง ทำงานไม่ประสานกัน อ่อนแรง หรือหดตัวได้ไม่เต็มที่ ซึ่งภาวะเหล่านี้เรียกรวม ๆ ว่า "ความผิดปกติของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน"
ผู้หญิงที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานตึงมากเกินไป อาจมีอาการเจ็บบริเวณอุ้งเชิงกรานและรู้สึกเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ เช่น ช่องคลอดหดเกร็งจนสอดใส่อวัยวะเพศได้ลำบาก หรือรู้สึกปวดบริเวณอวัยวะเพศภายนอก ส่วนในกรณีที่กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนยานหรือตึงน้อยเกินไป อาจมีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดการบาดเจ็บจากการคลอดบุตร ปวดหลังส่วนล่าง หรือเส้นประสาทบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย บางคนอาจมีความผิดปกติในการถึงจุดสุดยอดทางเพศ อวัยวะภายในหย่อนยาน หรือมีข้อต่อหลวมเกินปกติโดยกำเนิด
แพทย์หรือนักกายภาพบำบัดจะทำการตรวจวินิจฉัยความผิดปกตินี้อย่างระมัดระวัง โดยการสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอด (สำหรับผู้หญิง) หรือทวารหนัก (สำหรับผู้ชาย) เพื่อประเมินความตึงของกล้ามเนื้อ ความไวเมื่อถูกกด ความยืดหยุ่นเวลาถูกยืด รวมถึงความแข็งแรงและความอึดทนขณะเกร็งและหดตัว โดยจะเปรียบเทียบทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมให้คะแนนความแข็งแรงตามเกณฑ์มาตรฐาน และทดสอบระยะเวลาที่กล้ามเนื้อสามารถหดตัวได้ ซึ่งโดยปกติเมื่อกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดตัว เราจะรู้สึกถึงการหุบและยกขึ้นเข้าในอย่างเท่ากันทั้งสองด้าน
การรักษาความผิดปกติของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ วิธีการรักษาที่ได้ผลดี ได้แก่ การออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercise) อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ การนวดกล้ามเนื้อ การใช้ความร้อนหรือความเย็น และการปรับพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ท่าทางในการขับถ่าย การจัดท่านอน เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจพิจารณาให้ยาคลายกล้ามเนื้อ ฉีดโบท็อกซ์ หรือทำกายภาพบำบัดเพิ่มเติม ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล